วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ความหมายและคุณค่าของคำว่า "ครู"
ในวิถีชีวิตของสังคมไทย




ความหมาย
       

     ครู มาจากคำว่า “ครุ” แปลว่า หนัก อันเป็นความหมายแต่โบราณ

      ครู มาจากคำว่า “ครุ” แปลว่า หนัก ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษกำหนดให้บุคคลที่ทำหน้าที่ในการ สืบทอด และถ่ายทอด องค์ความรู้จากภายนอกที่มองเห็น ความรู้จากภายใน อีกทั้งทำความรู้ให้กระจ่าง และเป็น ผู้มีหน้าที่ สร้างบุคคลให้มีคุณภาพทั้งวิชาการ คุณธรรม จริยธรรม สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคมอย่างมีความสุข และเป็นกัลยาณมิตร



คุณค่าของความเป็นครู
       

     คุณค่า คือ การเห็นความสำคัญ และให้ค่าของสิ่งนั้น ซึ่งมองจากภายนอกเข้าสู่ภายใน
 

ความหมายของครูเป็นรูปธรรม
 
คุณค่าของความเป็นครูเป็นนามธรรม
       
- ครูมีคุณค่าในความเป็นปูชนียบุคคล
        - ครูเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ
        - ครูเป็นวิศวกรแห่งชีวิต
        - ครูเป็นผู้ให้ความผูกพัน
        - ครูเป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนต่อตนเองมากไปกว่าการได้เห็นศิษย์ถึงจุดหมาย
        - ครูเป็นผู้ซึ่งมีความดี ความงาม ซึ่งแสดงออกโดย กาย วาจา ใจ อย่างบริสุทธิ์ใจ
        - ครูเป็นผู้สืบทอด และถ่ายทอดวัฒนธรรม
        - ความเป็นครู มองจากภายนอก (คนเป็นครู) เพื่อให้เห็นหน้าที่ของ ครู
        - ครูเป็นผู้อบรม บ่ม เพาะ สั่งสอน

        เมื่อเรามองพฤติกรรมของครู เราจึงจะกำหนดคุณค่าของความเป็นครูได้ โดยมองทางกาย(พฤติกรรม การกระทำ) ทางวาจา อันเป็นสิ่งสะท้อนจากใจ อันเป็นความดี ความงามของบุคคล
           


           

ใครคือครูครูคือใครในวันนี้
ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล
ใช่อยู่ที่เรียกว่าครูอาจารย์
ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน

ครูคือผู้ชี้นำทางความคิด
ให้รู้ถูกรู้ผิดคิดอ่านเขียน
ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร
ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้สร้างงาน

ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์
ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์
มีดวงมานเพื่อมวลชนใช่ตนเอง

ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ใหญ่ยิ่ง
สร้างคนจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง
สร้างคนให้ได้เป็นตัวของตัวเอง

                                              



Quote


Give a man a fish,
and you  feed him for a day,
teach a man a fish,
and you feed him for a life time.

                                                                   from   Teacher   Greg.
  


 กาล หรือ Tense คืออะไร 


 

กาล หรือ Tense ก็คือรูปของคำกริยาซึ่งแสดงให้เห็นเวลาและความต่อเนื่อง หรือความสมบูรณ์ของการกระทำ หรือ สภาวะที่แสดงออกโดยกริยา ซึ่งแบ่งออกเป็นหลักใหญ่ ๆ ได้ 3 กาล คือ

1. ปัจจุบันกาล (Present Tense)
2. อดีตกาล (Past Tense)
3. อนาคตกาล (Future Tense)


โครงสร้างประโยคสำหรับแต่ละ Tense

1.Present Tense (ปัจจุบันกาล)



1.1)Present Simple Tense (ปัจจุบันกาลธรรมดา)
Structure :Subject + Verb1


Example: He  speak.

1.2)Present Continuous Tense
(ปัจจุบันกาลกำลังกระทำอยู่)
 Structure : Subject + is,am,are + Verb-ing
           
 Example: He is speaking.

1.3)Present Perfect Tense(ปัจจุบันกาลสมบูรณ์)
Structure : Subject + has,have + Verb3


Example: He has been speaking.


2.Past Tense (อดีตกาล)


2.1) Past Simple Tense(อดีตกาลธรรมดา)
Structure : Subject + Verb2


Example: He spoke.


2.2) Past Continuous Tense
(อดีตกาลกำลังกระทำอยู่)
Structure : Subject + was,were + Verb-ing


Example: He was speaking.


2.3) Past Perfect Tense(อดีตกาลสมบูรณ์)
Structure : Subject + had + Verb3



Example: He had spoken.

2.4) Past Perfect Continuous Tense
(อดีตกาลสมบูรณ์แต่กำลังกระทำอยู่)
Structure : Subject + had been + Verb-ing


Example: He had been speaking.


3.Future Tense (อนาคตกาล)




3.1) Future Simple Tense(อนาคตกาลธรรมดา)
Structure : Subject + will,shall + Verb1



Example : He will speak.



3.2) Future Continuous Tense
(อนาคตกาลกำลังกระทำอยู่)
Structure : Subject + will,shall + be + Verb-ing



Example: He will be speaking.



3.3) Future Perfect Tense(อนาคตกาลสมบูรณ์)
Structure : Subject + will,shall + have + Verb3



Example: He will have spoken.


3.4) Future Perfect Continuous Tense
(อนาคตกาลสมบูรณ์แต่กำลังกระทำอยู่)
Structure : Subject + will,shall + have + been

+ Verb-ing


Example: He will have been speaking.

9 เคล็ดลับในการทำข้อสอบ



1. มีความตั้งใจแน่วแน่     
 มีความเชื่อมั่นในตัวเอง สร้างกำลังใจในการอ่านหนังสือ เอาชนะความเกียจคร้าน
2. วิเคราะห์ตัวเอง
     วิเคราะห์ว่าเรามีความชอบและมีความถนัดในสาขาวิชาไหน แล้วลองเลือกมาเก็บไว้ 3 อันดับ โดยเลือกตามความถนัดของตัวเอง ไม่เลือกตามเพื่อน ตามใจพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือตามกระแสนิยม
3. วิเคราะห์สาขาวิชาที่จะสอบ    

 วิเคราะห์สาขาวิชาที่ชอบนั้นว่าเรามีพื้นฐานความรู้ในสาขานั้นๆมากพอที่จะสอบติดหรือไม่ มีเวลาอ่านหนังสือพอหรือเปล่า แล้วสาขาวิชากนั้นมีการแข่งขันสูงแค่ไหน แล้วประเมินตัวเองตามความเหมาะสม ถ้าอันดับ 1 ที่เลือกไว้นั้นเป็นไปไม่ได้ ก็มุ่งไปที่อันดับ 2 หรือ 3
4. การเตรียมความพร้อม     

เตรียมตัวอ่านหนังสือ หาหนังสือมาให้ครบทุกเนื้อหาที่จะต้องสอบ หาอาจารย์หรือเพื่อนที่คนเก่งๆ มาติว เตรียมห้อง และอุปกรณ์สำหรับการอ่านหนังสือ
5. วางแผนการใช้ชีวิต
     ลองออกแบบชีวิตตัวเองดูว่า ในวันหนึ่งเราจะทำอะไรบ้าง อะไรที่จำเป็นและอะไรที่ไม่จำเป็น พยายามใช้เวลาในการอ่านหนังสือให้มากที่สุด
6. วางแผนการอ่านหนังสือ
     เริ่มต้นวางแผนว่าจะเลือกอ่านวิชาไหนก่อน ควรเลือกอ่านวิชาที่ชอบหรือถนัดก่อน เลือกทำข้อสอบหรือแบบฝึกหัดจากง่ายก่อน เพื่อเป็นสร้างกำลังใจในการอ่านวิชาต่อไป ซึ่งต้องวางแผนการอ่านให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่เหลือของการสอบ
7. งดกิจกรรมอื่นๆ ชั่วคราว    

 สร้างกฏเหล็กให้กับตัวเอง เช่น เลิกเล่นเกม เลิกเที่ยว เลิกดื่ม เลิกchat msn เลิกเม้น hi5 เลิกคุยโทรศัพท์นานๆ ชั่วคราว แต่อาจผ่อนคลายด้วยการออกกำลังกาย หรือการนั่งสมาธิ
8. เทคนิคการอ่านหนังสือ
     อย่าปล่อยให้ตัวเองมีเวลาว่าง อ่านทุกเมื่อที่มีโอกาส  พกหนังสือต้องติดตัวตลอดเวลา ว่างเมื่อไรหยิบมาอ่านได้ทันที  พยายามจดโน้ตสาระสำคัญไว้ ไม่ควรนอน กินขนม ฟังเพลง ดูทีวี พร้อมๆกับการอ่านหนังสือ  ควรใช้สมาธิในการอ่านอย่างเดียว
9. สร้างกำลังในให้ตัวเองอย่างต่อเนื่อง  
   ในช่วงเวลาของการอ่านหนังสือ เราจะพบอุปสรรค์มากมาย เช่น ความขี้เกียจ ง่วง ความกังกล ความเบื่อหน่าย ต้องหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เช่นการออกมาสูดอากาศนอกห้อง กินขนม ดูทีวี ฟังเพลง พูดคุยกับครอบครัว เล่นกับสัตว์เลี้ยง หรือเล่นดนตรีซักพักแล้วค่อยเริ่มต้นอ่านใหม่ พยายามเชื่อมั่นว่าเราทำได้ และสร้างกำลังใจอยู่ตลอดเวลา

 รู้เคล็ดลับแล้วก็ลองมาทำ

แบบทดสอบTense กันนะคะ


                 


 

 แบบทดสอบTense

Present Simple Tense
Choose the correct answer.
  1. She ___ four languages.
    a. speak
    b. speaks

     
  2. Jane is a teacher. She ___ French.
    a. teach
    b. teaches

     
  3. When the kettle ___, will you make some tea?
    a. boil
    b. boils

     
  4. I always ___ the window at night because it is cold.
    a. close
    b. closes

     
  5. Those shoes ___ too much.
    a. cost
    b. costs

     
  6. The food in Japan is expensive. It ___ a lot to live there.
    a. cost
    b. costs

     
  7. His job is great because he ___ a lot of people.
    a. meet
    b. meets

     
  8. He always ___ his car on Sundays.
    a. wash
    b. washes

     
  9. My watch is broken and it ___ to be fixed again.
    a. need
    b. needs
     
10.I ___ to watch movies.
      a. love
      b. loves

 

Present Continuous Tense
1. He……….driver a car now.
a.   be
b.   is
c.   am
d.   are

2. You……….drinking orange at this time
a.   be
b.   is
c.   am
d.   are

3. It……….barking at the moment
a.   be
b.   is
c.   am
d.   are

4. David……….(listen) to music now.
a. listen
b. listens
c. is listening
d. are listening

5. Kate……….(eat) some fish at this moment
a. is eating
b. are eating
c. eats
d. eat

6 .Adam and Mary ……….(rum) in the garden now.
a. is running
b. runs
c. are running
d. run

7. A : What is she doing right now ?
B : …………………………………………
a.   She is riding a bicycle right now.
b.   She is driving a car right now.
c.   She is sitting right now.
d.   They are driving a car right now.

8. A : what are they doing now ?
……………………………………………
a.   They are running now.
b.   They are having a picnic now.
c.   They are playing football now.
d.   They are walking in the field now

9. A :…………………………………..
B : They are watching a flower now.
a.   What is he doing now ?
b.   What are you doing now ?
c.   What are they doing now ?
d.   What am I doing now ?

10 . A : ……………………………….
B : He is playing the piano at the moment
a.   What is she doing at the moment ?
b.   What is he doing at the moment ?
c.   What are they doing at the moment ?
d.   What are you doing at the moment ?

 Present PerfectTense



Put the verbs into the correct form (present perfect simple).
  1. I (not / work) today.
  2. We (buy) a new lamp.
  3. We (not / plan) our holiday yet.
  4. Where (be / you) ?
  5. He (write) five letters.
  6. She (not /see) him for a long time.
  7. (be / you) at school?
  8. School (not / start) yet.
  9. (speak / he) to his boss?
  10. No, he (have / not) the time yet. 

 Present Simple, Present Continuous , Present Perfect and Present Perfect Continuous1. Water..(boil)....at 100 degrees C.
boils has boiled is boiling has been boiling

2. Mother...(cook)....dinner at present.
cooks is cooking has cooked has been cooking

3. ....(you hear)....someone whispering?
Are you hearing Have you heard Have you been hearing Do you hear
have is having have had have been having

5. I...(read)...this novel since this morning and I am still reading it now.
read am reading have read have been reading

6. I..(plan)...to study my English lesson tonight.
plan am planning have planned have been planning
read am reading have read have been reading

8. I...(work)...for eight hours and now I'll stop.
work am working have worked have been working
Do you have Are you having Have you had Have you been having

10. I...(wear)... a hat today because the sun is very hot.
wear am wearing have worn have been wearing



 


9. ...(you have)...dinner yet?
7. I...(read)....this book for several times.
4. I ...(have)...no news of him since he left.